โบสถ์ หรือ อุโบสถ ในภาคอีสาน เรียกว่า “สิม” ที่มาจากคำว่า “สีมา หรือ เสมา” อันหมายถึง หลักแสดงเขตของสงฆ์
สิมอีสานมีขนาดและรูปลักษณ์แตกต่างจากโบสถ์ภาคกลางอย่างเด่นชัด สะท้อนให้เห็นถึงคติการดำรงชีวิตที่สงบ เรียบง่าย พึ่งพึงธรรมชาติ
สิมอีสานมีขนาดและรูปลักษณ์แตกต่างจากโบสถ์ภาคกลางอย่างเด่นชัด สะท้อนให้เห็นถึงคติการดำรงชีวิตที่สงบ เรียบง่าย พึ่งพึงธรรมชาติ
สิมวัดสนวนวารีพัฒนาราม
ก่อนอื่นคงต้องลบภาพอุโบสถทรงสูงชะลูดมีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เป็นเครื่องประกอบหลังคาอย่างที่เห็นชินตาในแถบภาคกลางออกเสียก่อน แล้วเริ่มต้นนึกภาพใหม่ เป็นอาคารขนาดเล็กก่อด้วยอิฐ บ้างสร้างด้วยไม้ บ้างหลังคามุงด้วยไม้แป้นเกล็ด บ้างก็มุงด้วยหญ้าตามแต่จะหาได้ สมัยนี้เห็นมุงด้วยสังกะสีก็หลายแห่ง
ที่แปลกไปจากภาคอื่น ๆ อีกอย่าง คือ ภาพจิตรกรรม ซึ่งภาษาอีสานเรียกว่า “ฮูปแต้ม” ปกติจะเห็นว่าเขียนไว้ที่ผนังด้านในของพระอุโบสถ แต่แถบภาคอีสานตอนบนนิยมเขียนทั้งด้านในและด้านนอก ซึ่งมีเหตุผลอธิบายได้อย่างเข้าที คือ สิมมีขนาดเล็กมาก เนื่องจากทำขึ้นเพียงเพื่อให้พระสงฆ์ประกอบสังฆกรรมเท่านั้น
ญาติโยม โดยเฉพาะผู้หญิง ต้องนั่งฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่ด้านนอก ดังนั้นหากเขียนภาพแต่ด้านใน ก็คงจะขัดเกลาจิตใจให้เห็นธรรมได้เฉพาะเพียงพระเท่านั้น จึงเกิดความคิดเขียนภาพด้านนอก เพื่อฉลองศรัทธาญาติโยมที่มาฟังธรรมที่วัด ให้ได้มีโอกาสชื่นชมกับจิตรกรรมที่แฝงคติธรรมและเรื่องราวสนุกสนานตามประสาชาวบ้านไปด้วย
ภายในนิยมเขียนภาพพุทธประวัติ และเรื่องราวเกี่ยวกับชาดก ส่วนภายนอกสำหรับอุบาสก อุบาสิกาชมนั้น นิยมนำนิทานพื้นบ้านที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการชิงรักหักสวาท การผจญภัยของตัวละครเอกมาแสดงภาพโดยสอดแทรกคติธรรม “การทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” และบรรยายภาพการถูกลงโทษในนรกไว้ให้น่ากลัว ดังเช่น ฮูปแต้มวัดสนวนวารีฯ ที่จะนำมาเสนอในที่นี้
วัดสนวนวารีฯ มีชื่อเต็มว่า วัดสนวนวารีพัฒนาราม เดิมชื่อวัดชนวน เพราะมีต้นขนวนอยู่ภายในวัด เมื่อเวลาผ่านไปจึงเพี้ยนจาก “ขนวน” มาเป็น “สนวน” วัดนี้สร้างราว พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยการบริจาคตามกำลังศรัทธาของชาวบ้าน รวบรวมได้สองร้อยบาท มีช่างญวนเป็นช่างใหญ่และเป็นช่างแต้ม ส่วนสิมนั้นสร้างหลังจากสร้างวัดสองปี
สิมวัดสนวนวารีฯ เป็นอาคารก่ออิฐขนาดสามห้อง กว้างประมาณ ๕.๓๐ เมตร ยาวประมาณ ๗ เมตร มีทางเข้าด้านหน้าด้านเดียวคือทางทิศตะวันออก ผนังด้านข้างเจาะวงโค้งแบบนิยมของญวนแทนการใส่บานหน้าต่าง
ฮูปแต้มด้านนอกเขียนไว้เหนือแนววงโค้ง เริ่มจากผนังด้านทิศใต้ต่อเรื่อยไปทางตะวันตก ทิศเหนือ จนสุดผนังด้านทิศตะวันออก แต่ยังไม่จบเรื่อง ช่างก็กระโดดไปต่อเรื่องจนจบที่ผนังด้านหลัง (ตะวันตก) เนื่องจากเป็นด้านเดียวที่พอมีพื้นที่เหลือ
ภายในอุโบสถ (สิม)
ส่วนฮูปแต้มด้านในก็คล้ายกัน คือเริ่มจากผนังด้านทิศเหนือต่อเรื่อยไปทิศตะวันตก ทิศใต้ และทิศตะวันออกจนสุดผนัง ยังไม่จบเรื่อง กระโดดไปต่อจนจบที่ผนังด้านหลัง (ตะวันตก) ที่เห็นอย่างนี้อย่าคิดว่าผิดแบบธรรมเนียมแต่อย่างใด เพราะสิมที่มีฮูปแต้มของอีสานเกือบทุกแห่งเป็นอย่างนี้
ช่างเขียนภาพไป บางทีนึกขึ้นได้ว่าลืมตอนสำคัญ ก็มองหาที่ว่าง จะแทรกตรงไหนได้บ้าง ดังนั้นผู้ที่จะดูภาพเข้าใจ ก็ต้องมีพื้นความรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านอีสานไว้บ้าง เพราะนอกจากบางครั้งจะไม่วาดตามลำดับเรื่องราวแล้ว บางทียังแปลงเรื่องใหม่สุดแท้แต่ความนิยม และความรู้ของช่าง สร้างสรรค์กันได้อย่างอิสระ ไม่มีกรอบหรือแบบแผนที่ต้องเคร่งครัดเหมือนงานช่างหลวง
How to get from Harrah's Las Vegas to Harrah's Lake 메리트 카지노 쿠폰 메리트 카지노 쿠폰 카지노 카지노 메리트 카지노 고객센터 메리트 카지노 고객센터 4779prediction tips today soccer predictions today soccer betting
ตอบลบ